การปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วย Hifu, ร้อยไหม และเมโสแฟต

ปรับรูปหน้า

การปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วย Hifu, ร้อยไหม และเมโสแฟต

Elite clinic คลินิกความงามเชียงราย เรามีบริการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็น Hifu, ร้อยไหม และเมโสแฟต


การปรับรูปหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัดที่อีลิท (Elite Clinic ) มีอะไรบ้าง?

นอกเหนือจากโบท็อกกับฟิลเลอร์แล้ว เรายังมีบริการที่ช่วยในเรื่องการปรับรูปหน้าได้อีกด้วย 

  1. Hifu
  2. ร้อยไหม
  3. เมโสแฟต

มาทำความรู้จักว่าแต่ละอย่างคืออะไรกันค่ะ ? 

1. Hifu

Hifu เป็นนวัตกรรมจากประเทศเกาหลี ที่ตอนนี้ใคร ๆ ก็อยากทำ Hifu เพราะเป็นการยกกระชับหน้าที่ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด เป็นคลื่นเสียงที่มีความปลอดภัยสูง ไม่มีอันตรายต่อผิว แต่เนื่องจากการทำ Hifu ปัจจุบันมีตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึงราคาสูง

แนะนำให้ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจ ว่าจะได้ผลในแบบที่เราต้องการจริงหรือไม่ ได้ผลตามที่โฆษณาจริงไหม ควรเลือกทำที่คลินิกไหนดี และต้องเลือกใช้เครื่องมือยี่ห้อไหนจึงจะได้ผลคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เพราะถ้าลองถามเพื่อนที่เคยทำ Hifu บางคนรู้สึกว่าทำแล้วไม่ได้ผล หรือไม่ได้ผลมากตามที่หวังไว้ก็มี ซึ่งเกิดจากการไม่ได้ศึกษาข้อมูลก่อนทำนั่นเอง

 

 

9 คำถามที่พบบ่อย

1. Hifu คืออะไร ?

Hifu คือนวัตกรรมความงามรูปแบบใหม่ที่ให้ผลทางด้านลดเลือนริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และเพิ่มความกระชับให้กับบริเวณผิวหน้าและร่างกาย Hifu มีหลักการทำงานโดยใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ที่พัฒนามาจากการอัลตร้าซาวด์ดูครรภ์ทางการแพทย์ ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้น เพื่อทำให้ผิวชั้นนั้นหดตัวเสมือนกับการเย็บที่เนื้อ

ซึ่งเป็นการดึงหน้า ที่ส่งผลให้ผิวดูยกกระชับ และอ่อนเยาว์มากขึ้น จึงมีความปลอดภัยสูง และไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก ( เพราะไม่ใช่ laser และไม่ใช่คลื่นแสง ) อีกทั้งคลื่นเสียงนี้ไม่เป็นอันตรายต่อสายตา จึงสามารถช่วยเน้นที่บริเวณใต้ตา และรอบดวงตาได้โดยตรง

2. HIFU ได้ผลลัพธ์อย่างไร ?

  • ลดความหย่อนคล้อยของใบหน้า
  • ผิวหนังกระชับอ่อนเยาว์
  • กระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
  • ลดริ้วรอย
  • ยกคิ้ว
  • กระชับเหนียง และคอ
  • เพิ่มความคมชัดบริเวณแนวสันกราม

3. อายุไม่ถึง 25 ปี ควรทำ Hifu รึป่าว ?

เมื่ออายุเกิน 20 ปี ใบหน้าทุกคน 90 % จะเริ่มหย่อนลง elastin เริ่มยืดออก ทำให้เริ่มมีร่องใต้ตา ร่องแก้ม และถ้าปล่อยให้ยืดออกเรื่อย ๆ ผิวหน้าจะเริ่มหย่อนลงแบบทวีคูณ เปรียบเทียบคล้าย ๆ กับการที่เราต้องใส่ยกทรง เพื่อไม่ให้หน้าอกหย่อน ก็ควรเริ่มใส่ตั้งแต่วัยรุ่น ดังนั้นเราควรทำให้ใบหน้าของเรากระชับอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่อายุน้อย ๆ

ในคนที่เริ่มทำตั้งแต่อายุน้อย จะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดร่องใต้ตา ร่องแก้ม หรือร่องมุมปาก ซึ่งถ้ามีร่องพวกนี้เกิดขึ้น จะทำให้ดูโทรม ดูแก่ และมีอายุ โดยอายุ 20 กว่า ๆ ก็สามารถเริ่มทำได้แล้วนะคะ

อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด รวมถึงการยกกระชับใบหน้า หรือยกแนวคิ้วให้ขึ้น และผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย ลดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง ลดเหนียงใต้คาง หรือลดคางสองชั้น ผิวหน้าทุกคนจะเริ่มหย่อนลงตามอายุจากทั้งการยุบของกระดูกและเนื้อ หากปล่อยไว้ไม่ทำให้กระชับ ก็จะหย่อนเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ

4. ควรเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี คลินิกไหนดี

ระวังการโฆษณา Hifu ที่เกินจริง ของคลินิกต่าง ๆ ปัจจัยที่ต้องพิจารณาตามลำดับความสำคัญในการเลือกคลินิกทำ Hifu มีดังนี้

  1. ยี่ห้อเครื่อง Hifu สำคัญที่สุดการทำ Hifu จะได้ผลดี เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนและอยู่ได้นานนั้น ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเครื่องที่ใช้เป็นหลักนะคะ
  2. ราคา Hifu จะเห็นว่าแต่ละคลินิกมีการตั้งราคาแตกต่างกัน ก็ต้องย้อนกลับไปดูยี่ห้อเครื่องที่ใช้ ว่าเป็นเกรดไหน การนับ shot hifu จะยิงออกมา shot ละประมาณ 15-25 จุด ซึ่งบางคลินิกจะนับ 1 จุด = 1 shot อันนี้ก็ควรระวัง
  3. แพทย์ผู้ทำ ข้อนี้มีผลไม่มาก  เพราะการทำ Hifu มีรูปแบบการยิงที่ชัดเจน ถึงแม้จะมีเทคนิคพิเศษบ้างในบางจุด เช่น ถุงใต้ตา แก้หนังตาตก ยกมุมปาก แต่ก็เป็นเทคนิคที่ไม่ซับซ้อนเท่าการฉีดโบท็อกซ์, ฉีดฟิลเลอร์ หรือร้อยไหม

ข้อเสียของเครื่อง Hifu เกรดต่ำ

  • พลังงานจะไม่คงที่บางไลน์แรงมาก บางไลน์เบามาก หมอจึงไม่กล้าใช้พลังงานสูง เพราะไลน์ที่แรงเกินไปอาจจะทำให้ผิวไหม้ หน้าบวม และอาจโดนเส้นประสาท ทำให้หน้าเบี้ยวได้ การที่หมอใช้พลังงานต่ำลงทำให้ยิงแล้วไม่เจ็บ อาจเห็นผลบ้างแต่ก็จะอยู่ได้ไม่นาน
  • จุดของพลังงานจะไม่ focus บางจุดร้อนตรงกลาง บางจุดไม่ร้อน ไม่มีความสม่ำเสมอ ทำให้เห็นผลน้อยลง
  • รอบประมวลผลในการปล่อยพลังงานต่ำใช้เวลาในการยิงนานขึ้น จะเจ็บมากขึ้นโดยที่ได้ผลเท่าเดิม
  • ใน 1 หัวยิง สมมุติว่ามี 20,000 line ไลน์ที่ยิงออกมาแรก ๆ จะพลังงานสูง ไลน์ท้าย ๆ พลังงานจะต่ำลง ทำให้ได้ผลน้อยลง

Hifu กี่ชอตเห็นผล ?

หลายคนสงสัยว่าการทำ Hifu กี่ช็อตถึงจะเห็นผล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน  ไม่ว่าจะเป็นปริมาณไขมัน ความหย่อนคล้อย และสภาพผิว ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกับผลการรักษา จึงต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ช่วยประเมินก่อนทำ เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด

Hifu เจ็บไหม ?

เรามักจะเห็นจากโฆษณาหลาย ๆ ที่ว่าการทำ Hifu เห็นผลทันที และไม่เจ็บ ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย ถ้าถามว่าการทำ Hifu เจ็บไหม ขอตอบตรง ๆ เลยว่าเจ็บจ้า การทำ Hifu ที่ได้ประสิทธิภาพนั้น ขณะทำต้องมีความรู้สึกปวด ๆ ตึง ๆ บริเวณใต้ชั้นผิว แสดงถึงการยิงคลื่นเสียงเข้าถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) เพื่อความยกกระชับ และอาการหลังทำ Hifu คือบวมเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ยุบบวมไปเอง ผลการทำ Hifu อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน และสามารถมีระยะเวลาถึง 1 ปี แต่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม 

ที่บางคลินิกโฆษณาว่าไม่เจ็บ เป็นเพราะเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการปรับใช้พลังงานที่ไม่สูง ผลที่ได้จะน้อยลง และระยะเวลาอยู่ได้สั้นลงนั่นเอง

Hifu ทั่วทั้งตัว ได้ผลจริงหรือไม่ ? 

สามารถยิงได้ทุกบริเวณที่เราต้องการให้กระชับขึ้น โดยจะมีหัวที่ยิงหลากหลายตามระดับความลึกของผิวในบริเวณนั้น ๆ จุดที่ยิงแล้วเห็นผลชัดเจนแยกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

  • ใบหน้า – เหนียง คอ ร่องมุมปาก ร่องแก้ม พวงแก้ม ใต้ตา หน้าผาก เปลือกตาบน และกรอบหน้า
  • ร่างกาย – ต้นแขน ต้นขา เอว หน้าท้อง และสะโพก

 

ข้อดี-ข้อเสียของการทำ ELITE HIFU

ข้อดีของการทำ Hifu 
  1. นวัตกรรม Micro Focus ยิงแบบ Single Shot
  2. แพทย์ออกเเบบการรักษาได้ตรงจุดเเละเเม่นยำมากขึ้น
  3. มีประสิทธิภาพมาก
  4. มี อย. ไทย
  5. อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
  6. สามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติหลังจากทำ

 

รูปรีวิวก่อนและหลังทำ Hifu กับอีลิทคลินิก

 

 
ข้อเสียของการทำ Hifu 
  1. หลังการทำ บางท่านอาจมีแดงบ้าง แต่จะหายไปได้เองภายใน 1– 2 ชั่วโมง
  2. ระหว่างทำอาจจะมีการเสียวฟันในบริเวณจุดที่อุดฟันมา แต่ไม่มากจนทนไม่ได้
  3. บางท่านจะรู้สึกเมื่อย ๆ ระหว่าง หรือหลังทำเสร็จ เหมือนใบหน้าไปออกกำลังกายมาซึ่งก็เเปลว่าความร้อนกำลังทำงานอยู่ หากใช้พลังงานสูงเกินไปกับคนที่ผิวบาง

หัตถการที่ไม่สามารถทำร่วมกับ Hifu มีอะไรบ้าง

การยกกระชับใบหน้าในแต่ละครั้ง เราไม่จำเป็นต้องเลือกทำได้อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทำแค่ Hifu อย่างเดียว แต่เราสามารถทำ Hifu ควบคู่ไปกับการฉีดโบท็อกซ์ ร้อยไหม ฟิลเลอร์ เมโสแฟต เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

ข้อปฏิบัติหลังทำ Hifu

ข้อควรปฏิบัติหลังทำ Hifu ห้ามทำอะไรบ้าง?

  1. สามารถทาครีมบำรุงผิวหน้าได้ตามปกติ แต่แนะนำให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ เสริมจากเดิมเพื่อป้องกันแสงแดด
  2. หลีกเลี่ยงการออกแดดกลางแจ้งสัก 1-2 สัปดาห์ เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูของคอลลาเจนใต้ผิว
  3. หากมีอาการเมื่อย หรือตึงผิวก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
  4. ไม่ควรนวด หรือถูใบหน้าแรงๆ
  5. ไม่สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง

 

เมโสแฟต

เมโสแฟตเป็นตัวยาที่จะเข้าไปช่วยสลายไขมันใต้ผิว ทำให้ไขมันลดลง จึงช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น

ตัวยาของเมโสแฟตจะเข้าทำปฏิกิริยากับเซลล์ไขมัน ซึ่งเป็นเซลล์หลักของชั้นไขมัน เซลล์ไขมันจะทำหน้าที่กักเก็บไขมัน และมีลักษณะเป็นเซลล์ค่อนข้างกลม ภายในมีองค์ประกอบหลักคือน้ำมันอยู่เกือบเต็มเซลล์ ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น คือเซลล์จะมีการฝ่อตัวลง รวมถึงน้ำมันในเซลล์จะสลาย และถูกเซลล์เม็ดเลือดขาวมาเก็บออกไป

จากนั้นจะมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาแทนที่บริเวณนั้น เซลล์ไขมันที่หายไป จะทำให้ชั้นผิวมีความหนาลดลง แก้มจึงดูลดลงเช่นกัน นอกจากนั้นคอลลาเจนที่เกิดใหม่ จะช่วยกระชับผิวเข้ามา ทำให้ความหนาของผิวลดลงไปอีกด้วย

ใครบ้างที่ควรทำเมโสแฟต แฟตลดแก้ม ? 

ทุกท่านที่มีความกังวล หรือหากต้องการปรับรูปหน้าให้แก้มดูเรียวกระชับขึ้น หรือท่านที่เคยฉีดโบท็อกซ์กรามแล้วกรามเรียวขึ้น แต่ยังมีไขมันตรงแก้มก็สามารถทำเมโสแฟตได้ผลดีเช่นกันค่ะ สามารถทำควบคู่กันได้  ถ้าอยากให้หน้าเรียวได้รูปมากยิ่งขึ้น

 

รวมรีวิวเคสฉีดเมโสแฟตกับอีลิทคลินิก

 

 

 

 

เมโสแฟตอันตรายหรือไม่ ? 

เมโสแฟตสูตรที่อีลิทใช้จะเป็นตัวยาที่ปลอดภัย ผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทย และทุกตัวต้องผ่านการทดสอบกับเจ้าของคลินิกก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่เป็นอันตราย และเห็นผลจริง 

ข้อควรปฏิบัติก่อนการทำเมโสแฟต 

  1. หากเป็นไปได้ ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด กลุ่ม NSAIDS ได้แก่ ibuprofen naproxen วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ก่อนการรักษา เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
  2. หากเป็นไปได้ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการรักษา
  3. ถ้ามีประวัติของโรคเริมบริเวณริมฝีปาก ควรแจ้งแพทย์ก่อนรับการรักษา เพราะ แพทย์อาจพิจารณาให้ยาป้องกันการกำเริบของโรคเริมหลังทำได้ในบางท่าน

 

ปริมาณเท่าไหร่ต่อครั้ง ? 

ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ว่าต้องการลดมากลดน้อย และอยู่ที่ปริมาณไขมัน ยิ่งใช้ปริมาณตัวยาสูงยิ่งให้ผลดี จะสลายไขมันได้เยอะ และเห็นผลชัด  

หลังทำเมโสแฟตนานกี่วัน ? ถึงจะเห็นผล 

หลังทำเมโสแฟต ไขมันใต้ผิวที่แก้มจะค่อย ๆ มีการสลายตัวไปเรื่อย ๆ และจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 เป็นต้นไปหลังรับการรักษา และจะเห็นผลสูงสุดในวันที่ 14 วันหลังรับการรักษา

ต้องทำกี่ครั้งจะเริ่มเห็นผล ? 

ส่วนใหญ่คนไข้จะเริ่มเห็นผลการรักษาตั้งแต่หลังทำครั้งแรกเลยค่ะ และสามารถฉีด 1-2 อาทิตย์ครั้ง ต่อเนื่อง 5-6 ครั้ง ( ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน ) ยิ่งบ่อยใบหน้าก็ยิ่งเข้าที่ ได้รูปมากขึ้น แนะนำให้ทำต่อเนื่อง ไม่เว้นช่วงนานเกินไป ผลลัพธ์จะได้ชัดเจน แก้มเรียวสวยจนคนทักเลยจ้า

ถ้าหยุดแล้วจะเป็นอย่างไร ? 

เนื่องจากการทำเมโสแฟต เป็นการสลายเซลล์ไขมันด้วยตัวยา ซึ่งเซลล์ไขมันจะหายไปหลังตัวยาออกฤทธิ์ ดังนั้นในระยะยาวเราจะมีตัวเก็บไขมันในผิวลดลง ดังนั้นแก้มจึงลดลง และแม้หลังหยุดทำการรักษาไปแล้ว แก้มก็ไม่กลับมาอวบอีก เพราะไม่มีตัวเก็บไขมันแล้วนั่นเอง

แต่ทั้งนี้ก็ต้องควบคุมอาหารการกินด้วยนะคะ อันนี้สำคัญ เพราะหากเรายังคงกินเยอะ น้ำหนักตัวยังพุ่ง ก็มีงานวิจัยเหมือนกันว่า น้ำหนักตัวที่เพิ่มสามารถไปกระตุ้นเซลล์ไขมัน ให้สามารถเกิดขึ้นใหม่ได้อีกด้วยนะ

SUPER Elite-LIFT ( ร้อยไหม )

ร้อยไหม คือวิธีการนำไหมที่สามารถใช้ได้ทางการแพทย์ สอดเข้าไปในระนาบแนวความลึกของชั้นหนังแท้ โดยไม่ต้องผ่าตัดแต่อย่างใด ซึ่งการสอดไหมให้อยู่ในระนาบนี้ ต้องอาศัยทักษะความชำนาญ และประสบการณ์ของแพทย์

การร้อยไหมมักใช้เส้นไหมขนาดความยาวตั้งแต่ 2.5-6 มิลลิเมตร ผลลัพธ์ที่ได้จะเห็นผลชัดเจน หลังการรักษาจะรู้สึกได้ถึงผิวที่เต่งตึงยกกระชับได้ในทันที และเห็นผลลัพธ์ได้เต็มที่ภายใน 1 เดือน

ที่ Elite มีไหมอยู่ 3 ชนิด ที่แตกต่างกันออกไป ต่างกันที่แรงดึง / เส้น แพทย์จะเป็นผู้ประเมินตามความเหมาะสม และตามความต้องการของคนไข้ ว่าควรใช้กี่เส้น และใช้ไหมชนิดไหนบ้าง 

ข้อดีของการร้อยไหม

  • ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน
  • ได้ผลเท่ากับการผ่าตัดยกกระชับใบหน้า และเห็นผลทันทีหลังทำ
  • แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุดชัดเจน เช่น ยกหน้าผาก ยกแก้ม ยกคางยกคอ
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรง รูขุมขนกระชับขึ้นร่องแก้มตื้นขึ้น ลดริ้วรอยบริเวณมุมปาก หน้าเต่งตึงไม่หย่อนคล้อย
  • ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยเป็นวีไลน์ตามความต้องการ ลดไขมันรอยย่นใต้คางอยู่ได้นานมากกว่าวิธีเดิม ๆ

 

รูปรีวิวร้อยไหมกับอีลิทคลินิก

 

 


บริการที่เกี่ยวข้อง